4 ประเภทของปั๊มลม สำหรับมือใหม่
ปั๊มลมเป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญ เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของเครื่องมือลม (Air tools) ทั้งหลาย ขับเคลื่อนเครื่องมือลมให้ทำงานได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเป่าลม บล็อกลม ปืนยิงตะปูลม ไขควงลม กาพ่นสีลม เป็นต้น การใช้ปั๊มลมจึงได้รับความนิยมในวงการอุตสาหกรรมทั่วไป หรือแม้แต่การใช้งานตามบ้านเรือน ที่จำเป็นต้องใช้ปั๊มลมเป็นตัวช่วย เช่น เติมลมยางจักรยาน, มอเตอร์ไซต์, รถยนต์, ลูกบอล หรือ แม้แต่เป่าลูกโป่งในงานเทศกาล การเลือกปั๊มลมให้เหมาะสมกับงาน จะทำให้การทำงานนั้นราบรื่น ต่อเนื่อง งานออกมาเรียบร้อย
ปั๊มลมมี 4 ประเภท
1. ปั๊มลมแบบลูกสูบสายพาน จะใช้มอเตอร์และสายพานเป็นตัวขับเคลื่อน
2. ปั๊มลมโรตารี่ ใช้มอเตอร์ขับลูกสูบโดยตรง
3. ปั๊มลมออยฟรี (Oil free) เสียงเงียบและไม่ต้องเติมน้ำมันหล่อลื่น
4. ปั๊มลมแบบสกรู ใช้เพลาสกรูตัวผู้และตัวเมียหมุนเข้าหากันเพื่อดูดเเละอัดอากาศผ่านเกลียวสกรู
1. ปั๊มลมแบบลูกสูบสายพาน จะใช้มอเตอร์และสายพานเป็นตัวขับเคลื่อนลูกสูบในการดูดและอัดอากาศ เป็นปั๊มลมหรือเครื่องอัดลมที่มีการทำงานแบบไล่ระดับตั้งแต่แรงดันต่ำ แรงดันปานกลาง จนไปถึงแรงดันสูงสุด
วิธีการเลือกปั๊มลมแบบลูกสูบ
– ในส่วนของมอเตอร์ปั๊มลม จุดสังเกตว่าปั๊มลมมีประสิทธิภาพที่ดี ให้ดูตัวสเตเตอร์มอเตอร์ว่าต้องไม่มีขนาดเล็กเกินไป
– ท่อส่งลมเข้าสู่ถังเก็บหากมีครีบระบายความร้อนก็จะดียิ่งขึ้น
2. ปั้มลมโรตารี่ (ชนิดขับตรง) เป็นปั๊มลมที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายสะดวก และมีราคาถูก ปั๊มลมชนิดนี้เป็นปั๊มลมที่ตัวมอเตอร์ขับตรงกับลูกสูบ การส่งผ่านพลังงานจึงทำได้เร็วมาก แต่ต้องใช้น้ำมันในการหล่อลื่นลูกสูบ เพื่อลดการสึกหรอที่เกิดขึ้น เสียงจึงค่อนข้างดัง ปั๊มลมโรตารี่ส่วนมากนิยมใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ เหมาะใช้กับเครื่องขัดกระดาษทราย ไขควงลม ปืนลม และเครื่องมือลมตระกูลต่างๆ แต่ไม่ควรใช้งานตลอดทั้งวันแบบพวกงานพ่นสี เป็นต้น ปั๊มลมโรตารี่มีข้อเสียตรงที่เสียงดัง ไม่เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่อยู่อาศัย และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง เพราะมอเตอร์อาจจะร้อนจนไหม้ได้
ข้อดีของปั้มลมโรตารี่
– มีขนาดเล็ก ไม่เปลืองพื้นที่ มีความคล่องตัวสูง
– ปั๊มลมเต็มเร็วไว ไม่ต้องรอลมนาน
ข้อเสียของปั้มลมโรตารี่
– ต้องหมั่นดูแลเรื่องน้ำมันหล่อลื่น ใช้ติดต่อกันได้ไม่ควรเกิน 3 ชั่วโมง ต้องหยุดพัก
– เสียงดัง ร้อนไว
3. ปั้มลมออยฟรี (Oil free) เสียงเงียบและไม่ต้องเติมน้ำมันหล่อลื่น เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยม ปั๊มลม Oil free พัฒนามาจากปั๊มลมโรตารี่ ทำให้การอัดอากาศเข้ามีความรวดเร็ว อีกทั้งยังมีเสียงที่เงียบมากและไม่ต้องเติมน้ำมัน เหมาะกับงานที่ต้องการลมสะอาด ไม่มีกลิ่นน้ำมัน เช่น งานของทันตแพทย์ที่ต้องใช้เครื่องกรอฟัน งานศิลปะที่ต้องใช้แอร์บรัชสำหรับการพ่นสีลม และเหมาะที่จะใช้ตามบ้านพักอาศัย เพราะเสียงเงียบไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
ข้อดีของปั้มลมออยฟรี (Oil free)
– ปั๊มลมมีเสียงเงียบ ปั๊มลมได้รวดเร็ว
– บำรุงรักษาง่าย และขนส่งสะดวก
ข้อเสียของปั๊มลมออยฟรี (Oil free)
– เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีน้ำมันหล่อเลี้ยง ใช้งานต่อเนื่องไม่ได้ ต้องมีการหยุดพัก
ปั๊มลมออยฟรี (Oil free) มี 4 ขนาด คือ 25, 30, 40 และ 50 ลิตร ปั๊มลมมีหลากหลายมากมายหลายสีแล้วแต่ยี่ห้อ เช่น ปั๊มลม 30 ลิตร นิยมใช้กับบล็อกลม ปืนยิงแม็กลม เครื่องเจียรลม เติมลมยางทั้งมอเตอร์ไซค์ จักรยาน และรถยนต์ เป่าฝุ่นทำความสะอาดเครื่องไม้เครื่องมืองานไม้ เป็นต้น
และปั๊มลมขนาด 50 ลิตร นิยมใช้กับกาพ่นสีลม
ปั๊มลม 30L VERGIN WD550-1/30L
4. ปั๊มลมแบบสกรู เป็นปั้มลมขนาดใหญ่ ใช้กับโรงงานเพราะมีกำลังในการผลิตลมได้มาก ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เหมาะสำหรับงานหนัก
การเลือกซื้อปั๊มลมต้องคำนึงถึงลักษณะงานที่เราจะใช้ ว่าเราต้องการใช้ปั๊มลมที่มีแรงดันมากน้อยแค่ไหน ต้องการความต่อเนื่องของงานหรือไม่ การจ่ายลมสามารถทำงานต่อเนื่องได้หรือไม่ หรือแม้แต่สถานที่ที่จะใช้ทำงานก็มีส่วนสำคัญ เพราะปั๊มลมแต่ละชนิดมีเสียงดัง-เบา ไม่เท่ากัน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงานและสถานที่ทำงานของผู้ใช้ด้วย